|

บทความวิชาการ เดือนกุมภาพันธ์ 2568


พญ.ลักขณา จักกะพาก, นพ.ปริวัตร ปะวรรณะ, ผศ.พญ.อวัสดา บุณยัษเฐียร, รศ.ดร.นพ.อติวุทธ กมุทมาศ
ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

การจัดการสุขภาพทางเพศแบบบูรณาการในผู้ป่วยมะเร็งทางนรีเวช

 

บทนำ
โรคมะเร็งทางนรีเวช เช่น มะเร็งปากมดลูก มะเร็งรังไข่ มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก มะเร็งช่องคลอด และมะเร็งปากช่องคลอด เป็นโรคที่มีความซับซ้อนทั้งในด้านการรักษาและผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย โดยเฉพาะในมิติของสุขภาพทางเพศ ผลกระทบที่เกิดขึ้นทั้งทางร่างกายและจิตใจจากการรักษามะเร็งจำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างรักษาแบบบูรณาการเพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตและฟื้นฟูสมรรถภาพทางเพศของผู้ป่วย

ผลกระทบของโรคมะเร็งทางนรีเวชต่อสุขภาพทางเพศ
ผลกระทบทางร่างกายจากการรักษา
1.การผ่าตัด: การผ่าตัดมดลูกแบบถอนรากถอนโคนและแบบกว้าง (radical hysterectomy and pelvic exenteration) อาจมีการทำลายเส้นประสาทอัตโนมัติในอุ้งเชิงกราน ส่งผลทำให้เกิดภาวะความรู้สึกในอวัยวะเพศลดลง การถึงจุดสุดยอดลดลง รวมถึงการกลั้นปัสสาวะและอุจจาระไม่ได้ (1-2) การตัดรังไข่ (Oophorectomy) ทำให้ขาดฮอร์โมนเอสโตรเจนอย่างฉับพลันส่งผลให้เกิดอาการร้อนวูบวาบ ช่องคลอดแห้ง และเสี่ยงต่อภาวะกระดูกบาง ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพทางเพศ (3)

2. การฉายรังสี: การฉายรังสีในบริเวณอุ้งเชิงกรานทำให้เกิดภาวะเยื่อบุผิวช่องคลอดฝ่อลง และช่องคลอดตีบ จากการศึกษาพบอุบัติการณ์ภาวะดังกล่าวหลังการฉายรังสีอยู่ที่ร้อยละ 7.5-60 (4-5) การทำลายรังไข่ (ovarian ablation) ทำให้เกิดการหยุดชะงักของระบบฮอร์โมนส่งผลให้เกิดภาวะ hypoactive sexual desire disorder (HSDD) (5)

3. การรักษาด้วยยาเคมีบำบัด: ยาเคมีบำบัดบางกลุ่มทำให้เกิดความผิดปกติของระบบประสาทส่วนปลาย ส่งผลให้ความรู้สึกในอวัยวะเพศลดลง และหมดประจำเดือนไวขึ้นโดยพบอุบัติการณ์ดังกล่าวร้อยละ 40-80 (6)

ผลกระทบทางจิตใจและความสัมพันธ์
ความวิตกกังวลเกี่ยวกับรูปร่างและภาพลักษณ์ตนเอง:  การเปลี่ยนแปลงของร่างกาย เช่น การเปลี่ยนแปลงรูปร่างจากการผ่าตัด ศีรษะล้าน และภาวะบวมน้ำเหลือง ส่งผลต่อความมั่นใจในตนเองของผู้ป่วย (1) และผลกระทบทางด้านจิตใจ: ความกลัวการกลับมาเป็นโรคมะเร็งซ้ำ ความกลัวการถูกปฏิเสธจากคู่ครอง ส่งผลให้นำไปสู่ภาวะหลีกเลี่ยงทางเพศ (7)

แนวทางการจัดการสุขภาพทางเพศในผู้ป่วยมะเร็งทางนรีเวช
การประเมินสุขภาพทางเพศ

การประเมินสุขภาพทางเพศควรเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็งทางนรีเวช โดยการใช้เครื่องมือที่ผ่านการรับรอง เช่น Female Sexual Function Index (FSFI) และการสนทนาเชิงรุก เนื่องจากผู้ป่วยร้อยละ 70 มักไม่เปิดเผยปัญหาสุขภาพทางเพศหากไม่ได้รับการสอบถามโดยตรง (8)
การดูแลแบบสหสาขาวิชาชีพ
การจัดการสุขภาพทางเพศอย่างมีประสิทธิภาพในผู้ป่วยกลุ่มนี้ต้องอาศัยความร่วมมือจากทีมสหสาขาวิชาชีพ ได้แก่ สูตินรีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็ง ด้านเวชศาสตร์เชิงกรานสตรี ด้านเวชศาสตร์ทางเพศ -วินิจฉัยและรักษาภาวะบกพร่องทางเพศที่ซับซ้อน เช่น Female Sexual Arousal Disorder (FSAD) หรือ Female Orgasmic Dysfunction (FOD), ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟู และนักจิตบำบัด -ใช้เทคนิคการบำบัดทางจิตวิทยา เช่น Cognitive Behavioral Therapy (CBT)

แนวทางการรักษาที่มีหลักฐานเชิงประจักษ์
การรักษาด้วยการใช้ยา
การรักษาด้วยฮอร์โมน  การใช้ฮอร์โมนเอสโตรเจนเฉพาะที่ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและความชุ่มชื้นของช่องคลอด หรือใช้ครีมเอสโตรเจนกรณีไม่มีข้อห้ามใช้ เพื่อฟื้นฟูสภาพช่องคลอด (1) สารกลุ่มที่ไม่ใช่ฮอร์โมน ได้แก่ สารให้ความชุ่มชื้นในช่องคลอด ซึ่งมีส่วนผสมของ vaginal moisturizers and hyaluronic acid ในผู้ป่วยที่ไม่สามารถใช้ฮอร์โมนได้ (5) การจัดการอาการปวดจากเส้นประสาท (Neuropathic Pain Management):
การใช้ยากลุ่ม gabapentin และ topical lidocaine เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการลดอาการปวดบริเวณอวัยวะเพศหญิงและช่องคลอดที่เกิดจากเส้นประสาทเสียหายจากการฉายรังสี (9)

การรักษาทางด้านกายภาพ

การรักษาด้วยจิตบำบัด
การทำจิตบำบัดด้วยการปรับความคิดและพฤติกรรม (Cognitive Behavioral Therapy) ดูแลปัญหาภาพลักษณ์ร่างกายโดยการจัดการกับความเชื่อที่ไม่เหมาะสมและแทนที่ด้วยมุมมองที่สร้างสรรค์ รวมถึงเทคนิคการฝึกสติ (Mindfulness), การผ่อนคลาย, และการทนต่อความเครียด การบำบัดแบบคู่รัก (Couples-Based Therapy): สื่อสารพูดคุย และปรับความเข้าใจร่วมกันในเรื่องเพศพร้อมคู่ครอง เพิ่มความพึงพอใจในชีวิตคู่ และลดการหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ การกระตุ้นพฤติกรรม (Behavioral Activation): ส่งเสริมให้ผู้ป่วยและคู่รัก กลับเข้าสู่กิจกรรมทางเพศอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยเริ่มจากความใกล้ชิดที่ไม่เกี่ยวกับเพศ จะช่วยฟื้นฟูความมั่นใจในตนเอง (3)

การรักษาด้วยการผ่าตัด
การผ่าตัดซ่อมแซม
การผ่าตัดทำช่องคลอด (Vaginoplasty) และกระบวนการซ่อมแซมอื่นๆ เป็นทางเลือกที่สามารถช่วยฟื้นฟูการทำงาน เพิ่มคุณภาพชีวิตในผู้ป่วยที่ผ่านการผ่าตัดแบบรุนแรง (3)

สรุป
สุขภาพทางเพศเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยมะเร็งทางนรีเวช การดูแลผู้ป่วยในด้านนี้จำเป็นต้องอาศัยแนวทางการรักษาแบบบูรณาการและความร่วมมือจากสหสาขาวิชาชีพ เพื่อให้การดูแลมีความครอบคลุมและเหมาะสมกับความต้องการของผู้ป่วย

Integrative Sexual Health Management for Gynecologic Cancer Patients: Interventions

Intervention

Mechanism

Benefit

Reference

Evidence-Based Intervention

HRT **

-Localized estrogen therapy

-Improves vaginal elasticity and lubrication

Roussin, 2021

Non-Hormonal

-Polycarbophil-based & Hyaluronic acid

-Maintaining vaginal hydration.

Plagens, 2024

Neuropathic Pain

-Gabapentin &Topical lidocaine

-Relief pain in radiation-induced neuropathy.

Farrell, 2019

Vaginal Dilators

-3-5 times weekly for 5-10 minutes per session, starting 2-4 weeks at least 6-12 months

-Maintains vaginal elasticity, prevents vaginal stenosis

Plagens, 2024

PFT

-Strengthening of the pelvic floor muscles

-Relieves discomfort, improves sexual function

Barcellini, 2022

Laser Therapy

-Promotes tissue regeneration of vaginal wall

-Heat improve blood flow, elasticity in vaginal tissues

Oria, 2022

Psychological Intervention

Couples-Based

-Focus on mutual communication

-Improves intimacy/satisfy -Reduces sexual avoidance

Arthur, 2020

CBT

-Reframe maladaptive thoughts, -Emotional regulation,

-Improves intimacy/satisfy -Reduces distress

Arthur, 2020

Body Image

-Physical appearance, in patients with stomas or scars.

-Enhances self-esteem confidence.

Plagens, 2024

Surgical Intervention

Reconstructive Surgery

-Vaginoplasty & reconstructive

-Restores vaginal function, improves QoL

Arthur., 2020

**: caution in estrogen-sensitive cancers, HRT: Hormone Replacement Therapy, PFT: Pelvic Floor Therapy, CBT: Cognitive Behavioral Therapy


References

  1. Roussin, M., Lowe, J., Hamilton, A., & Martin, L. (2021). Factors of sexual quality of life in gynecological cancers: A systematic literature review. Archives of Gynecology and Obstetrics, 304(4), 791–805. 

  2. Dirakwaranon W, Suwannarurk K, Chitkoolsamphan Y, Wisarnsirirak P, Bhamarapravatana K, Pattaraarchachai J. (2024). Sexual dysfunction in patient’s diagnosed with cervical cancer in comparison to the healthy female population. Asian Pacific Journal of Cancer Prevention, 25(12), 4391-4396.

  3. Arthur, A., et al. (2020). A systematic review of interventions for sexual dysfunction in cancer survivors. Cancer Nursing, 43(4), 1-10. 

  4. Barcellini, A., Dominoni, M., Dal Mas, F., Biancuzzi, H., Venturini, S. C., Gardella, B., Orlandi, E., & Bø, K. (2022). Sexual health dysfunction after radiotherapy for gynecological cancer: Role of physical rehabilitation including pelvic floor muscle training. Frontiers in Medicine, 8, 813352.

  5. Plagens-Rotman, K., Merks, P., Pisarska-Krawczyk, M., et al. (2024). Oncosexology: Selected issues considering the problem of sexological care of patients with cancer. Menopause Review, 19(1), 21-30.

  6. Palaia, I., et al. (2022). Long-term quality of life and sexual function after neoadjuvant chemotherapy and radical surgery for locally advanced cervical cancer. The Journal of Sexual Medicine, 19(4), 613–619. 

  7. Ren, H., et al. (2025). Dyadic effects of illness perception and maladaptive cognitive-emotional regulation strategies on fear of cancer recurrence in breast cancer patients and spouses: An actor-partner interdependence mediation model. BMC Psychiatry, 25, 41. 

  8. Logan, S., Perz, J., Ussher, J. M. (2018). The taboo of sexuality during cancer treatment: Barriers and facilitators in patient-clinician communication. Supportive Care in Cancer, 26(2), 577-586. 

  9. Farrell, R., Lloyd, K., Brunsting, L. A. (2019). Neuropathic pain management in cancer survivors: A focus on gabapentinoids. Pain Medicine, 20(2), 222-230. 

  10. D’Oria, O., Giannini, A., Buzzaccarini, G., Tinelli, A., Corrado, G., Frega, A., Vizza, E., & Caserta, D. (2022). Fractional CO2 laser for vulvo-vaginal atrophy in gynecologic cancer patients: A valid therapeutic choice? A systematic review. European Journal of Obstetrics & Gynecology and Reproductive Biology, 277, 84–89.

    Similar Posts